เผยเคล็ดลับวิธีการทำเส้นขนมจีน แบบแป้งหมักและแบบแป้งสด 

แชร์เคล็ดลับวิธีการทำเส้นขนมจีน แบบแป้งหมักและแบบแป้งสด

ขนมจีน เป็นเมนูยอดนิยมที่หลายคนชื่นชอบ ไม่เพียงเพราะรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังเพราะสามารถนำไปประยุกต์ในหลากหลายเมนูที่เหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก และกลุ่มคนที่รักสุขภาพ แม้กระบวนการทำเส้นขนมจีน อาจดูซับซ้อนในบางครั้ง แต่เมื่อได้ลองทำและทำความรู้จักกับประเภทของแป้งที่ใช้แล้ว จะพบว่าไม่ยากเกินไป วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ เส้นขนมจีนแป้งสด และ เส้นขนมจีนแป้งหมัก พร้อมแชร์วิธีทำเส้นขนมจีนและประโยชน์ของขนมจีนที่คุณไม่ควรพลาด

เส้นขนมจีนมีกี่ชนิด

โดยทั่วไป เส้นขนมจีนสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ได้แก่

  1. เส้นขนมจีนแป้งสด
    ผลิตจากแป้งข้าวที่ผ่านกระบวนการน้อยที่สุด ทำให้เส้นมีความนุ่ม เหนียว และมีกลิ่นหอมธรรมชาติ
  2. เส้นขนมจีนแป้งหมัก
    ได้จากแป้งข้าวที่ผ่านการหมักจนเกิดกลิ่นและรสเฉพาะตัว ให้สัมผัสที่นุ่มลื่นและมีความเป็นเอกลักษณ์

เส้นขนมจีนแป้งสดกับแป้งหมักแตกต่างกันอย่างไร

1. วัตถุดิบและกระบวนการผลิต

  • เส้นขนมจีนแป้งสด:
    ใช้ข้าวเจ้าที่ผ่านการโม่และกรองละเอียดโดยไม่ผ่านการหมัก แต่จะนำเส้นที่ได้ไปล้างในน้ำเย็นเพื่อเซ็ตตัวให้เหนียวนุ่มและยังทำให้ยังคงกลิ่นหอมธรรมชาติของข้าวและเนื้อสัมผัสนุ่มเหนียว
  • เส้นขนมจีนแป้งหมัก:
    นำข้าวเจ้าที่ผ่านการแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน ผ่านกระบวนการหมักแป้งข้าวเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่ช่วยเพิ่มความนุ่มและรสชาติที่เฉพาะตัว

2. รสชาติและกลิ่น

  • เส้นขนมจีนแป้งสด:
    เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นเปรี้ยวหรือกลิ่นหมัก มีรสชาติที่ค่อนข้างจืด เน้นความหอมละมุนของแป้งธรรมชาติ เส้นมีลักษณะขาวใส ทำให้น่ารับประทานมากกว่าในบางมุมมอง
  • เส้นขนมจีนแป้งหมัก:
    มีกลิ่นเปรี้ยวและรสชาติที่เข้มข้นกว่า เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเส้นหมักและการหมักช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ เนื่องจากกระบวนการหมักจะช่วยทำให้แป้งย่อยง่ายขึ้น

3. ลักษณะเนื้อสัมผัส

  • เส้นขนมจีนแป้งสด:
    เนื้อเส้นจะนุ่มแต่มีความเหนียวและคงตัวดี เมื่อใช้ในเมนูที่มีน้ำแกงร้อน เส้นจะดูดซึมน้ำแกงได้ดี แต่โครงสร้างอาจไม่คงตัวเท่าแป้งหมัก
  • เส้นขนมจีนแป้งหมัก:
    เส้นมีโครงสร้างเหนียวหนึบ ไม่เละง่ายแม้เจอความร้อนหรือการปรุงซ้ำ มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มลื่นมากกว่า โดยเฉพาะเมื่อทานพร้อมน้ำยาหรือน้ำแกง

4. ความคงทนในการเก็บรักษา

  • เส้นขนมจีนแป้งสด:
    เนื่องจากไม่ได้ผ่านกระบวนการหมักที่ช่วยถนอมอาหาร หากเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง เส้นจะเสียง่ายภายใน 1-2 วัน หากเก็บในตู้เย็น อาจยืดอายุการเก็บได้ 3-5 วัน แต่ควรเก็บในภาชนะที่ปิดสนิทและแช่ในน้ำสะอาดเพื่อลดโอกาสการเกิดเชื้อรา
  • เส้นขนมจีนแป้งหมัก:
    เก็บได้นานกว่าแบบแป้งสด เนื่องจากกระบวนการหมักสร้างกรดแลคติกในแป้ง ซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์บางชนิด หากเก็บในอุณหภูมิห้อง เส้นขนมจีนแป้งหมักสามารถเก็บได้นาน 2-3 วันโดยไม่เสียง่าย หากเก็บในตู้เย็น อาจเก็บได้นานถึง 5-7 วัน โดยยังคงคุณภาพเส้นที่เหนียวหนึบ

ประโยชน์ของขนมจีน

  1. พลังงานต่ำ
    เส้นขนมจีนเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก แต่ยังได้รับพลังงานเพียงพอในแต่ละวัน
  2. แหล่งสารอาหารหลากหลาย
    โดยเฉพาะขนมจีนที่ผลิตจากข้าวเต็มเมล็ด จะให้ไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุที่มีประโยชน์
  3. เหมาะสำหรับการจัดเป็นอาหารสุขภาพ
    การจับคู่ขนมจีนกับน้ำยาหรือน้ำพริกที่มีผักสดเสริม จะเพิ่มประโยชน์ให้กับเมนูได้

แนะนำเมนูเพื่อสุขภาพที่ทำจากเส้นขนมจีน

ขนมจีนแกงเขียวหวานไก่
ใช้เนื้อไก่ไร้หนังและเส้นขนมจีนคู่กับแกงที่ปรุงด้วยกะทิไขมันต่ำ
ยำขนมจีน
ใช้ขนมจีนแป้งสดหรือแป้งหมักคลุกเคล้ากับผักสดและน้ำยำพริกเผา เพิ่มคุณค่าทางอาหารด้วยโปรตีนจากไข่ต้มขนมจีนน้ำพริก
เส้นขนมจีนที่เสิร์ฟพร้อมน้ำพริกสมุนไพรและผักสด เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ

ไม่เพียงแต่เป็นอาหารที่มีรสชาติอร่อย แต่ขนมจีนยังมีประโยชน์ ด้วยปริมาณพลังงานที่ต่ำและสามารถยืดหยุ่นในการปรับแต่งเมนูให้ตอบโจทย์สุขภาพเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับคนที่ควบคุมน้ำหนัก และวิธีการทำเส้นขนมจีนที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นเส้นขนมจีนแบบแป้งสดหรือเส้นขนมจีนแบบแป้งหมัก 

Similar Posts