บอกต่อประโยชน์ของโกโก้ สรรพคุณและข้อควรระวังที่ควรรู้ก่อนกิน

นอกจากชาเขียวกับมัทฉะแล้วโกโก้เป็นเครื่องดื่มอีกอย่างที่น่าจะเป็นเมนูเครื่องดื่มสุดโปรดของใครหลายๆคน เพราะโกโก้ มีประโยชน์มากมายอย่างคาดไม่ถึงแต่ถึงจะมีประโยชน์มากแค่ไหนแต่ก็ควรที่จะรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดโทษต่อร่างกาย บทความนี้จะพามาไขความลับประโยชน์ของโกโก้พร้อมโทษและสรรพคุณที่ควรรู้ก่อนรับประทาน
โกโก้ทำมาจากอะไร
โกโก้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากเมล็ดของต้นโกโก้ ซึ่งเติบโตในแถบภูมิอากาศ
ร้อนชื้น เมล็ดโกโก้จะถูกนำไปผ่านกระบวนการหมัก ตากแห้ง คั่ว และบดจนได้เป็นผงโกโก้บริสุทธิ์ที่สามารถนำไปใช้ทำเครื่องดื่ม ขนมหวาน หรือเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ
ประโยชน์ของโกโก้
1. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ: โกโก้มีสารฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอลสูง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
2. ช่วยบำรุงสมอง: สารฟลาโวนอยด์ในโกโก้ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ส่งผลดีต่อความจำและการทำงานของสมอง
3. ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ: โกโก้สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
4. ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น: โกโก้มีสารที่ช่วยกระตุ้นการหลั่งเซโรโทนินและโดพามีน ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และเพิ่มความสุข
5. ควบคุมน้ำตาลในเลือด: โกโก้ที่ไม่มีการเติมน้ำตาลสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มความไวของอินซูลิน ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน
สรรพคุณของโกโก้
- ช่วยต้านการอักเสบและลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
- มีแมกนีเซียมสูงช่วยเสริมสร้างกระดูก
- ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์
- มีคุณสมบัติช่วยเผาผลาญไขมัน ทำให้เป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
ข้อควรระวังในการบริโภค โรคอะไรห้ามกินโกโก้
1. โรคกรดไหลย้อน (GERD) และโรคกระเพาะอาหาร: โกโก้มีคาเฟอีนและสารธีโอโบรมีน (Theobromine) ซึ่งช่วยคลายกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหาร อาจทำให้กรดในกระเพาะย้อนขึ้นมา ทำให้อาการแสบร้อนกลางอกแย่ลง
2. โรคไต: โกโก้มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีภาวะไตเสื่อมหรือไตวาย เพราะไตอาจไม่สามารถขับโพแทสเซียมส่วนเกินออกจากร่างกายได้
3. โรคไมเกรน: คาเฟอีนและสารฟีนิลเอทิลามีน (Phenylethylamine) ในน้ำโกโก้อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนในบางคน
4. โรคเบาหวาน: แม้ว่าโกโก้แท้จะมีประโยชน์ แต่ผลิตภัณฑ์โกโก้สำเร็จรูปมักมีน้ำตาลสูง ซึ่งอาจทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงและเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยเบาหวาน
5. โรคหัวใจและความดันโลหิตสูง: คาเฟอีนในโกโก้อาจทำให้หัวใจเต้นเร็วและความดันโลหิตสูงขึ้นในบางคน โดยเฉพาะผู้ที่ไวต่อคาเฟอีน
โกโก้เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์และสรรพคุณหลากหลาย แต่ควรเลือกบริโภคในรูปแบบที่ไม่มีการเติมน้ำตาลและควบคุมปริมาณให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดโดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ในบทความที่แล้วได้มีการพามาทำความรู้จักเกี่ยวกับอาหารคลีนอาหารเพื่อสุขภาพยอดนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ