กินอะโวคาโด ดีต่อสุขภาพยังไง พร้อมบอกประโยชน์ โทษ และสรรพคุณ 

ไขข้อสงสัย อะโวคาโดมีประโยชน์อะไรบ้าง พร้อมสรรพคุณช่วยบำรุงสุขภาพ และโทษของอะโวคาโดที่ควรระวัง รวมถึงแนะนำเมนูอะโวคาโดอร่อย ๆ ที่ไม่ควรพลาด

อะโวคาโด ผลไม้ขึ้นชื่อเรื่องส่งเสริมสุขภาพ เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารและคุณประโยชน์มากมาย ปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมากินอะโวคาโดกันมากขึ้นจนอะโวคาโดถือว่าเป็นเมนูยอดนิยมสำหรับกลุ่มคนรักสุขภาพ มีการนำอะโวคาโดไปปรับเข้ากับเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ข้อควรระวังถึงอะโวคาโดจะมีประโยชน์และสารอาหารมากมายแต่ควรเลือกบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ บทความนี้จะบอกประโยชน์ของอะโวคาโด สรรพคุณ และโทษของอะโวคาโด กินอะโวคาโด ดีต่อสุขภาพยังไงมาดูกันเลย 

วิธีเลือกกินอะโวคาโด

การเลือกอะโวคาโดที่ดีช่วยให้ได้รับรสชาติที่อร่อยและสารอาหารครบถ้วน ควรเลือกอะโวคาโดที่มีเปลือกเรียบหรือขรุขระเล็กน้อยตามสายพันธุ์ สีของเปลือกไม่ควรมีจุดช้ำหรือรอยบุบ หากต้องการกินทันที ควรเลือกผลที่กดแล้วนิ่มเล็กน้อย แต่ถ้ายังไม่ต้องการกินทันทีให้เลือกผลที่แข็งเพื่อนำไปบ่มต่อได้

เคล็ดลับการเลือกอะโวคาโดให้สุกกำลังดี 

หากต้องการเร่งให้อะโวคาโดสุกเร็วขึ้น ให้วางไว้ในถุงกระดาษพร้อมกับกล้วยหรือแอปเปิลและเมื่ออะโวคาโดเริ่มนิ่มและเปลือกมีสีเข้ม แสดงว่าสุกพร้อมรับประทาน

อะโวคาโดห้ามกินคู่กับอะไรบ้าง 

  • อาหารที่มีไขมันสูง: เช่น อาหารทอดหรือชีส เพราะอะโวคาโดเองก็มีไขมันสูง หากกินคู่กันอาจทำให้ร่างกายได้รับพลังงานเกินความจำเป็น
  • อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง: เช่น กล้วยและมันฝรั่ง สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคโพแทสเซียมมากเกินไป
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: เพราะไขมันดีในอะโวคาโดอาจส่งผลให้ร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์เร็วขึ้น

ประโยชน์ของอะโวคาโด  

  • บำรุงหัวใจ: อะโวคาโดมีไขมันดี (Monounsaturated Fats) ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
  • ช่วยควบคุมน้ำหนัก: ไขมันดีและไฟเบอร์ในอะโวคาโดช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร และในบทความที่แล้วได้มีการพาไปทำความรู้จักกันกับอาหารคลีน เพื่อสุขภาพที่เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับช่วยควบคุมน้ำหนักได้เหมือนกัน
  • บำรุงผิวพรรณ: วิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระในอะโวคาโดช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย
  • เสริมสร้างระบบย่อยอาหาร: ไฟเบอร์ในอะโวคาโดช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก
  • ช่วยบำรุงสายตา: มีลูทีนและซีแซนทีนที่ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น ต้อกระจก

สรรพคุณอะโวคาโด มีอะไรบ้างดังนี้

  • ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน: เนื่องจากมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • บำรุงสมองและระบบประสาท: กรดไขมันโอเมก้า 3 และโฟเลตช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์
  • ลดความดันโลหิต: โพแทสเซียมในอะโวคาโดช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: มีวิตามินซี วิตามินบี 6 และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการอักเสบและโรคต่าง ๆ

โทษของอะโวคาโด

แม้ว่าอะโวคาโดจะมีประโยชน์มากมาย แต่หากบริโภคมากเกินไปหรือไม่ถูกวิธี อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เช่น

  • ให้พลังงานสูง: การกินอะโวคาโดในปริมาณมากอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
  • อาจก่อให้เกิดอาการแพ้: บางคนอาจมีอาการแพ้อะโวคาโด เช่น ผื่นคัน หรืออาการทางเดินอาหารผิดปกติ
  • มีผลต่อยาบางชนิด: เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคหากกำลังใช้ยาเหล่านี้
  • มีโพแทสเซียมสูง: ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตควรระวังการกินอะโวคาโดมากเกินไป

แนะนำเมนูจากอะโวคาโด

  • สลัดอะโวคาโด: ผสมกับผักสดและโปรตีน เช่น ไก่ย่าง หรือแซลมอน
  • สมูทตี้อะโวคาโด: ปั่นร่วมกับกล้วย นมอัลมอนด์ และน้ำผึ้ง
  • กัวคาโมเล่: (Guacamole) ซอสอะโวคาโดสไตล์เม็กซิกัน ทานคู่กับแครกเกอร์
  • แซนวิชอะโวคาโด: ทาขนมปังโฮลวีตพร้อมไข่ต้ม หรือทูน่า
  • พาสต้าอะโวคาโด: ใช้อะโวคาโดบดแทนซอสครีม เพิ่มรสชาติด้วยกระเทียมและมะนาว
  • ไข่ตุ๋นอะโวคาโด: เป็นเมนูที่ได้ทั้งโปรตีนจากไข่ และไขมันดีจากอะโวคาโด รสชาตินุ่มละมุน กินเป็นอาหารมื้อเช้าหรือมื้อเย็นก็อิ่มอร่อยแบบไม่หนักท้อง

จากบทความข้างต้นก็ได้ทราบถึง ประโยชน์ของอะโวคาโด โทษ และก็สรรพคุณกันแล้ว อย่างที่ได้อธิบายไว้ตอนต้น อะโวคาโดมีประโยชน์และสารอาหารที่เยอะมากแต่หากรับประทานเกินปริมาณที่เหมาะสมก็อาจจะส่งผลเสียกลับมาสู่ร่างกายได้เช่นกัน 

Similar Posts